ประวัติความเป็นมาสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติต่างประเทศ
จากการที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นสถาบันการศึกษาที่มีศักยภาพโดดเด่นและมีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วโลก จึงได้มีชาวไทยเป็นจำนวนมากในประเทศต่าง ๆ ได้ติดต่อขอให้มหาวิทยาลัยรามคำแหงขยายการเรียนการสอนสู่ต่างประเทศ ดังนั้น ในปี 2546 ด้วยความมีวิสัยทัศน์ของผู้บริหารมหาวิทยาลัยขณะนั้น (อธิการบดี คือ รองศาสตราจารย์รังสรรค์ แสงสุข) ประกอบกับความพร้อมหลาย ๆ ด้าน ได้ให้ความสำคัญของการให้โอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาแก่ชาวไทยในต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาการดำเนินการของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคำแหงจึงมีนโยบายตอบสนองความต้องการของชาวไทยในการขยายการเรียนการสอนสู่ต่างประเทศ
วัตถุประสงค์ในการขยายการเรียนการสอนสู่ต่างประเทศ มีดังนี้
1. เพื่อให้โอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาแก่ชาวไทยในต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก
2. เพื่อขยายการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยรามคำแหงสู่ต่างประเทศให้กว้างขวางขึ้น
3. เพื่อนำการอุดมศึกษาไทยสู่สากลอย่างเป็นรูปธรรม และพัฒนาการอุดมศึกษาไทยแข่งขันในเวทีการศึกษาโลก นำมหาวิทยาลัยไทยยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับมหาวิทยาลัยชั้นนำของนานาอารยประเทศ
4. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัยรามคำแหง
5. เพื่อสร้างชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยรามคำแหงและประเทศชาติให้กว้างไกลทั่วสากล
6. เพื่อเป้าหมายที่จะพัฒนามหาวิทยาลัยรามคำแหงให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก
ในระยะแรกเริ่มมหาวิทยาลัยได้มอบหมายให้รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ขณะนั้น (รองศาสตราจารย์รำไพ สิริมนกุล) เริ่มเตรียมการและดูแลรับผิดชอบในการดำเนินการ มีการจัดตั้งคณะกรรมการเตรียมการ ฯ และในเบื้องต้นได้มีการจัดตั้ง “สำนักงานวิเทศสัมพันธ์” ขึ้น เพื่อเป็นหน่วยงานกลางในการประสานงานและดำเนินการไปก่อน ซึ่งมีหัวหน้างานวิเทศสัมพันธ์ กองแผนงาน (น.ส. ปราณี เหมาะสุวรรณ) ช่วยดูแลการปฏิบัติงานภายในสำนักงาน ฯ ดังนั้น การเตรียมการและการดำเนินการจึงเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2546
มหาวิทยาลัยได้เริ่มรับสมัครนักศึกษาปริญญาตรีในต่างประเทศรุ่นแรกในภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2546 มีระบบการบริหารจัดการ การจัดการเรียนการสอนและการจัดสอบในรูปแบบที่เหมาะสมและสะดวกสำหรับผู้เรียนในต่างประเทศ ได้ขยายการเรียนการสอนสู่ต่างประเทศอย่างรวดเร็วและพัฒนาเจริญก้าวหน้ามาโดยตลอด ซึ่งมีผู้สนใจจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกสมัครเรียนเพิ่มมากขึ้นตลอดเวลาด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของมหาวิทยาลัย
การจัดสอบของมหาวิทยาลัยรามคำแหงในต่างประเทศ ทางมหาวิทยาลัยได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากกระทรวงการต่างประเทศ ในการให้ความอนุเคราะห์สถานที่สอบ ดำเนินการจัดสอบและควบคุมการสอบ ณ สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ในประเทศต่าง ๆ ที่มีผู้สมัครเรียน
มหาวิทยาลัยเห็นว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัยรามคำแหงสู่สากล และเพื่อการบริหารการจัดการการเรียนการสอนสู่ต่างประเทศให้พัฒนาเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น จึงมีนโยบายจัดตั้งสาขาวิทยบริการต่างประเทศขึ้น
ในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งเป็นปีมหามงคลที่ชาวไทยทั้งประเทศและทั่วโลกร่วมกันเฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยรามคำแหงจึงได้น้อมเกล้าถวายโครงการจัดตั้งสาขาวิทยบริการต่างประเทศเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการเทิดพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี พร้อม ๆ กับปวงชนชาวไทยทั่วประเทศและทั่วโลก และให้มีชื่อสาขาวิทยบริการต่างประเทศที่ตั้งขึ้นว่า “สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติต่างประเทศ” โดยมุ่งการให้โอกาสทางการศึกษาแก่ชาวไทยในต่างประเทศให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของโลก
สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยมติที่ประชุม ฯ ครั้งที่ 2/2549 วาระที่ 4.10 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2549 ได้อนุมัติจัดตั้ง “สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติต่างประเทศ” ขึ้น (โดยใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Overseas Academic Services Center in Honour of His Majesty the King และมีอักษรย่อ OASC) ในระยะแรกยังไม่มีที่ทำการในต่างประเทศ แต่ให้มีที่ทำการของสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติต่างประเทศ ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก เรียกว่า “สำนักงานสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติต่างประเทศ” (แทน “สำนักงานวิเทศสัมพันธ์” เดิม)
ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 5/2549 วาระที่ 4.7 เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2549 ได้อนุมัติโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการและหน้าที่ความรับผิดชอบ และกรอบอัตรากำลังของสำนักงานสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติต่างประเทศ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 ซึ่งผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ เป็นอธิการบดีขณะนั้น ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 8/2555 วาระที่ 4.2 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2555 ได้อนุมัติร่างข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่าด้วยการจัดตั้งสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติต่างประเทศ พ.ศ. 2555 ซึ่งมีรายละเอียดข้อบังคับดังกล่าว ในข้อ 6 ว่า “ให้จัดตั้งสาขาวิทยบริการสังกัดสำนักงานอธิการบดีอยู่ในการบังคับบัญชาของอธิการบดี และให้มีสำนักงานที่มีฐานะเทียบเท่ากอง” (คำว่าสาขาวิทยบริการ หมายถึง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติต่างประเทศ)
โครงสร้างการแบ่งส่วนราชการสำนักงานของสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติต่างประเทศขณะนั้น ประกอบด้วย งานบริหารและธุรการ งานสนับสนุนการศึกษาระดับปริญญาตรี งานสนับสนุนการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา และงานสารนิเทศ
สำนักงานสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติต่างประเทศ เป็นหน่วยงานกลางในการประสานงานและดำเนินงานด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง การรับสมัคร การลงทะเบียน การจัดสอบ รวมทั้งการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย คณาจารย์ กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ และนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงในต่างประเทศ กิจกรรมนักศึกษา การประชาสัมพันธ์ในต่างประเทศ ฯลฯ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2558 ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ครั้งที่ 4/2558 วาระที่ 5.1 เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2558 ได้มีมติเห็นชอบและอนุมัติให้ปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนงานและระดับหน่วยภายในงาน และหน้าที่ความรับผิดชอบ ในสำนักงานสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติต่างประเทศ ดังนี้
สำนักงานสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติต่างประเทศ แบ่งส่วนงานภายในสำนักงาน ฯ เป็น 4 งาน ได้แก่ งานธุรการ งานบริการการศึกษาต่างประเทศ งานจัดสอบต่างประเทศ งานบริการสื่อการสอนต่างประเทศ และมีระดับหน่วยงานภายในแต่ละงาน ดังนี้
1. งานธุรการ
- หน่วยธุรการและบริหารทั่วไป
- หน่วยการเงิน บัญชี และพัสดุ
2. งานบริการการศึกษาต่างประเทศ
- หน่วยบริการการศึกษา
3. งานจัดสอบต่างประเทศ
- หน่วยจัดสอบ
4. งานบริการสื่อการสอนต่างประเทศ
- หน่วยบริการสื่อการสอนและประกันคุณภาพการศึกษา
มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ขยายการเรียนการสอนสู่ต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ตามความต้องการของชาวไทยที่สนใจและสมัครเรียนกับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันได้ขยายสู่ประเทศต่าง ๆ 32 ประเทศ จัดให้มีศูนย์สอบ 41 แห่งในประเทศเหล่านั้น การจัดสอบในต่างประเทศตั้งแต่แรกเริ่มจวบจนปัจจุบัน ทางมหาวิทยาลัยได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากกระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ ในการให้ความอนุเคราะห์สถานที่สอบ ดำเนินการจัดสอบและควบคุมการสอบในประเทศต่าง ๆ ที่มีผู้สมัครเรียน
ในปี พ.ศ. 2555 ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีขณะนั้นได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศเพื่อขอบคุณอีกครั้งหนึ่งในความร่วมมือที่ได้รับจากกระทรวงการต่างประเทศในการให้การศึกษาระดับอุดมศึกษาแก่คนไทยในต่างประเทศและขอความอนุเคราะห์ดำเนินการต่อไป ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือตอบถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ กต. 0901/2352 ลงวันที่ 13 กันยายน 2555 เรื่อง ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ในการให้การศึกษาระดับอุดมศึกษาแก่คนไทยในต่างประเทศ แจ้งให้มหาวิทยาลัยทราบว่า “กระทรวงการต่างประเทศยินดีให้ความร่วมมือและสนับสนุนมหาวิทยาลัยรามคำแหงในการดำเนินโครงการในการให้การศึกษาระดับอุดมศึกษาแก่คนไทยในต่างประเทศต่อไป เพื่อประโยชน์ในการขยายโอกาสทางการศึกษาของนักศึกษาไทยในต่างประเทศ” ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการบริหารงานมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ก.บ.ม.ร.) ครั้งที่ 3/2555 เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2555 และที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ครั้งที่ 12/2555 วาระที่ 3.1 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2555 ได้รับทราบแล้ว
ปัจจุบัน ศูนย์สอบ 41 แห่ง ในประเทศต่าง ๆ 32 ประเทศ จำแนกเป็นดังนี้
กลุ่มประเทศ จำนวนประเทศ จำนวนศูนย์สอบ
¨ อเมริกาเหนือและแคนาดา 2 6
¨ ยุโรป 15 16
¨ ตะวันออกกลาง 4 4
¨ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ 2 3
¨ เอเชีย 9 12
¨ นอกจากนี้ยังจัดให้มีศูนย์สอบพิเศษที่ประเทศไทย ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก กรุงเทพมหานคร กรณีนักศึกษาประสงค์จะกลับมาสอบที่ประเทศไทย